วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

“วัฒนธรรมไทย” คือสินค้าชิ้นเอกของการท่องเที่ยวสร้างสรรค์


เพราะ “วัฒนธรรมไทย” คือสินค้าชิ้นเอกของการท่องเที่ยวสร้างสรรค์

การท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น นับว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการท่องเที่ยวสร้างสรรค์
ดังนั้น
การพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวจึงจำเป็นต้องมีกระบวนการจัดการวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยว (Creative Tourism and Cultural Development) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการสื่อความหมายของวัฒนธรรมของท้องถิ่นให้สามารถถ่ายทอดคุณค่าและมีความหมายทางสัญลักษณ์ อันบ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างกันออกไปของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญทางการท่องเที่ยว โดยวัฒนธรรมสามารถสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสืบทอดวัฒนธรรมให้คงอยู่
เรื่องราวประวัติศาสตร์เกิดจากการหล่อหลอมทางวัฒนธรรมร่วมกัน จากชุมชนเล็กๆ ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่ต้องไปเกี่ยวข้องกับชุมชนที่อยู่ห่างไกล ทั้งความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ การละเล่น ดนตรีพื้นบ้าน บทกลอน อาหาร ประเพณี งานฝีมือช่าง งานศิลป ฯลฯ ซึ่งได้มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมและสืบสานเป็นมรดกตกทอดนับรุ่นต่อรุ่น จากบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน วัฒนธรรมได้ทำหน้าที่เป็นรากฐานความมั่นคงของท้องถิ่น ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางวัฒธรรมมาแต่โบราณ มีความหลากลายของชาติพันธุ์ เป็นศูนย์กลางทางการค้าของภูมิภาค มีการติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติ และด้วยอุปนิสัยของคนไทยที่เป็นคนเปิดกว้าง เรียนรู้ ทำให้เราสามารถหล่อหลอมวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาเป็นเป็นส่วนหนึ่งของเรา ประเทศไทยจึงมีมิติที่ลึกซึ้งทางวัฒนธรรม ให้เราสามารถสืบค้นวิวัฒนาการจากวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ปรากฏเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ ไปสู่วัฒนธรรมผสมที่มีรากร่วมกันอยู่ ยกตัวอย่างเช่น วัฒนธรรมดั้งเดิมจะเห็นได้จากตุ๊กตาสังคโลก หรือตุ๊กตาดินเผาสมัยสุโขทัย หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏเป็นตุ๊กตาแม่อุ้มลูก เปลือยอก นุ่งผ้าถุงลายดอก ที่ใบหน้ามีก้อนกลมๆ ติดอยู่ที่แก้ม สื่อถึงการเลี้ยงดูบุตร การแต่งกาย และการเคี้ยวหมาก และปรากฏเป็นตุ๊กตาชาวจีน สื่อถึงประวัติศาสตร์การค้าขายร่วมกันกับชาวจีน และการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชาวจีนก่อนจะเป็นสยามประเทศ
การจัดการการการท่องเที่ยวที่ปรับเข้าสู่การท่องเที่ยวสร้างสรรค์นั้น ต้องอาศัยความเข้มแข็งของของชุมชน โดยชุมชนจะมุ่งเน้นนำเสนอรูปแบบของกิจกรรม (Cultural Activity) ที่มีความหลากหลาย เช่น การชมการละเล่น การร้องเพลง การฟังดนตรีพื้นเมือง การชมภาพเขียน จิตรกรรม การนำชมพิพิธภัณ์ท้องถิ่น นำชมโบราณสถาน หรือการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมประเพณี พิธีกรรมพื้นบ้าน ซึ่งในแต่ละภาคของประเทศนั้นมีเอกลักษณ์ ที่นำเสนอออกมาได้แตกต่างกันตามความแตกต่างของวัฒนธรรมพื้นบ้าน คติความเชื่อ สิ่งศักด์สิทธิ์ เช่นประเพณีแต่งงาน ประเพณีบุญทางศาสนา ดังนั้น การอนุรักษ์วัฒนธรรมไม่ให้สูญหาย หรือถูกลืมเลือนไป จึงเป็นการก้าวไปข้างหน้า และเป็นก้าวย่างที่สำคัญของการพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องด้วยเพราะประเทศไทยมีความเป็นอัตลักษณ์สูง (Authenticity) และนี่คือสินค้าชิ้นเอกทางการท่องเที่ยว ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ ดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รู้จักกับชุนชนในระดับที่ลึกกว่าการท่องเที่ยวทั่วไปในรูปแบบที่เคยชิน โดยให้ความสนใจกับสินค้าทางวัฒนธรรม เพื่อให้ตนเองได้รับประสบการณ์(Experience) ที่แปลกใหม่ ทั้งประสบการณ์ตรงที่สามารถจับต้องได้และประสบการณ์ที่ทำให้เกิดการรับรู้ แต่ไม่สามารถจับต้องได้ ฉะนั้น การจัดการวัฒนธรรมจึงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของการพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญและเป็นปัจจัยหนึ่งของความสำเร็จในการสร้างคุณค่า ความทรงจำ สำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและชุมชนเอง ชุมชนสามารถจัดทำแผนบริหารกระบวนการพัฒนา (Cultural Master Development Plan)อย่างมีส่วนร่วม โดยแบ่งออก 5 ส่วน ได้แก่
*กลุ่มพัฒนาท่องเที่ยวชุมชนคือ ตัวแทนของชุมชน เป็นสมาชิกของชุมชน ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมของการบริหารจัดการท่องเที่ยว ให้เป็นไปตามกฏหรือระเบียบที่ได้กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้กระทบหรือส่งผลในแง่ลบต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวกับวิถชุมชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น